Vacuole
"กระเพาะอาหารอักเสบ รักษาเคร่งครัดให้หายขาด 1 เดือน นะคะ หมอขอ ! "
"งด ชา กาแฟ สุรา อาหารเผ็ดห้ามแม้แต่น้อย T__T และน้ำอัดลมเด็ดขาด"
.
.
.
ตอนแรกไอ้เราก็นึก --> "ไม่เป็นไรว่ะ เร็วๆนี้ ได้กินสั่งลาไปหลายอย่างละ บางอย่างก็เปลี่ยนสถานะไปเป็นของแสลงซะแล้วตอนช่วงอาหารเป็นพิษ เดือนเดียวเอง นู๋ทนได้"
.
.
.
ห้ามกินของเผ็ด...มื้อสั่งลายกให้=ตำลาวโคตรเผ็ด (ซัดคนเดียวหมด) ร้านแซ่บนัว หน้า ม.ขอนแก่น เมื่อต้นเดือน

ห้ามดื่มกาแฟ...มื้อสั่งลายกให้=คาปูชิโน่ร้อน ร้าน Science Cafe ที่คณะ เมื่อกลางกุมภา

ห้ามดื่มชา...มื้อสั่งลายกให้=เอิร์ลเกรย์ชงเอง 3 กา รวด (ซดคนเดียวหมด) เมื่อปลายปีที่แล้ว

ห้ามดื่มสุรายาเมา...มื้อสั่งลายกให้=เยอรมันตะวันแดง เมื่อปีกลาย กะ เหล้าขาว+เสือ11ตัว ของลุงวร เมื่อสมัยอยู่เขาสอยดาว

ห้ามกินน้ำอัดลม...มื้อสั่งลายกให้=โค้ก 1 แก้ว ตอนตี3 ก่อนที่จะท้องอืด ขย้อนออกมา และแสบท้องจนต้องลากสังขารไปโรง'บาล ในเช้าวันรุ่งขึ้น (9 มี.ค.)

***เออ กรรมของตรูจริงจริง***
'
'
'
'
ผ่านมา 8 วัน~
อยากจิบชาร้อน, ชาเย็น, กรีนทีลาเต้, กินแกงส้ม, น้ำจิ้มซีฟู้ด, น้ำจิ้มลูกชิ้น, แกงไตปลา ฯลฯ
จาลงแดงแวร้ววววววววว~
ฮึ่ม! อีกสามอาทิตย์เจอกัน!!!

น้องสาวบอก: "ช๊อกโกแลตก็กัดกระเพาะนะ (พี่ที่ทำงานเป็นโรคกระเพาะ แล้วหมอห้ามกิน) โกโก้ก็ด้วย"
ตรู: "ไม่สนอ่ะ หมอพี่ไม่ได้บอกว่าห้าม (ตรูก็ไม่ได้ถาม)"
.........ขอล่อ ดาร์กช๊อก กะ โกโก้ร้อน แก้ขัดไปก่อนละกัน

Vacuole
เมาท์

ปะป๊ามักจะละเอียดอ่อนกับอาหารการกิน และมีนิสัยเฉพาะตัว

(แต่แม่กับลูกแอบกัดว่า 'เรื่องมาก' )
ป๊าจะดื่มกาแฟบ่อยมาก วันละอย่างน้อย 4 แก้ว
แต่เวลาดื่ม จะไม่ยกหมดแก้ว
จะต้องเหลือไว้ประมาณ 1/3 หรือ 1/4 ติดก้นแก้ว
ด้วยให้เหตุผลว่า "มันเหมือนมีตะกอนอยู่ก้นแก้ว" (กาแฟดำสำเร็จรูปเนี่ยนะ)
แต่เจ้าตัวก็ออกปากยอมรับมาเองว่า "เป็นความประสาทส่วนตัว"

/me ยกซดหมด แทบจะเอาลิ้นเลียแก้ว

(- - )
--clΞb--


...วันนึง แม่ก็เกิดหมั่นใส้พฤติกรรมนี้ขึ้นมา

อยากแก้เผ็ด ก็เลยแอบเท 'กาแฟก้นแก้ว' นั้นแช่ตู้เย็น
ตั้งแต่เช้า รวมอยู่ 3-4 ครั้ง ก็ได้แก้วนึง
พอตอนรอบค่ำ เอามาเข้าเวฟ ร้อน หอมกรุ่น
...ปะป๊ากินอย่างไม่เอะใจ
แม่รอจะเค้าดื่มเสร็จ ค่อยเฉลย ลูกๆพากันฮากลิ้งเลย


นั่นก็หลายปีมาแล้ว
แต่เดี๋ยวนี้ ป๊าก็ยังขยักเหลือกาแฟก้นแก้วไว้เหมือนเดิม
(ระวังจะโดนอีกรอบนะ เหอ เหอ)

Vacuole

Video: TYPIN_Open House 48
Vacuole
งานนี้ไม่หวังโหวต หรือได้รางวัลหรอกเจ้าค่ะ

แค่ขอใช้ Brand's Gen เป็นเวทีบอกว่า เรา “จูน” คนเมืองกับธรรมชาติได้จริงๆนะ (ตอนทำก็นึกถึง EE ของน้องเอมมั่กๆ คือ เห็นตัวเราในน้องเอม แรงบันดาลใจวัยเด็ก อิอิ)

ตอนส่งก็เอาเข้าประเภท Innovation Inventor อ่ะ เพราะที่เราทำๆมา ทุกอย่างมันอิงพื้นฐานงานเขียนวิชาการหมดเลย ที่เอามาทำให้มัน "แนว" เป็น EE ย่อยง่าย ...อยากสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในสังคมชาวคณะวิทย์ มหิดล ...อยากสร้าง Trend ชวนให้บอกเล่างานวิชาการให้มันเกิดผลต่อคนรอบข้าง. . . คนทำงานวิ๊ด-วิทย์ ก็เป็นผู้ประกอบการทางสังคมได้ (^ε^)




ตอนนี้ประกาศผลเข้ารอบ 100 โครงการแล้ว. . .ทีมงาน BG เค้าย้ายเราไปอยู่ประเภท Creative Art แล้วไม่บอกกล่าวกันเฉยเลย...แง่ม แง่ม (- -‘A) พรุ่งนี้มีกิจกรรมไป workshop ที่ TCDC เรื่อง "ความคิดเล็กๆ ที่เปลี่ยนแปลงโลก" (หัวข้อน่าสนใจ) ไปประชันกับเด็กศิลป์ เหอ เหอ

ตื่นเต้น เพราะโครงการอันอื่นๆที่เข้ารอบน่าชื่นชม และน่าสนใจมั่กๆ + มี item ให้เก็บเพียบเลยคร้าบบบบบ...พี่น้องงงงงงงงงงง........Q( >“<)o

ป.ล. เพิ่งรู้ทีหลัง ว่าเค้าตัดสินจากคะแนนโหวตร่วมด้วย ...แอบเสียศรัทธาไปเล็กน้อย + ขาดความกระตือรือร้นไปพักนึงอ่ะ --__--*)...เหอ เหอ กับดัก marketing ของเบรนด์เค้าอ่ะนะ
Vacuole

ไอ่เจ้าแน็กกี้-น้องหมาตอแหลที่บ้าน

ไม่รู้ว่าเพราะเจ้าของเก่าเค้าสอนมาดี หรือมันเรียนรู้เอาเอง ว่าถ้าทำหน้าแอ๊บแบ๊ว ตาโต เอาขาหน้าถูหัวตัวเอง กระดิกหางแบบ excite จัดๆ . . . แล้วคนจะเอ็นดู ทนไม่ได้จนต้องมาลูบหัว เล่นด้วย
ไอ่เจ้าตัวนี้มันออดอ้อน อ้อล้อ จนน้องเราเรียก "ไอ้หมาตอแหล" ไปแล้ว


พักหลังมานี้เหลือเป็นสมาชิกหมาตัวเดียวในบ้าน ก็ยิ่งกระดี๊กระด๊า ...'ข้าใหญ่สุด' อยู่มานานที่สุดในซอย
ม้านนนนนนนก็ซักจะปากเปราะขึ้นทุกวัน เพราะมีหมาหน้าใหม่เข้ามาอยู่ในซอยเยอะขึ้น
ท่าทางเลยกลายเป็นเจ้าแม่คุมแถวนั้น ข่มหมาเล็ก หน้าใหม่ซะสนิท

แต่มันก็ทำเป็นฟอร์มจัดไปงั้นเองอ่ะ เห็นหลายทีละ ที่มันก็หูตั้ง อยากเข้าไปเล่นกับเค้า แต่เล่นกันซักพักมันก็ขู่ วางฟอร์มมาเฟียใหม่อีกครั้ง (- - ' ) ...กรรม

ในซอยบ้าน จะมีอาณาเขตหมาแบ่งเป็นโซนๆ หัวซอย กลางซอย ท้ายซอย ไม่มีใครแหยมถิ่นใคร


จนเมื่อกลางดึกวันก่อน พอซอยมันเงียบๆ เราไปเจอว่า ไอ้พวกนี้ 4 -6 ตัว มันตั้งเป็นกองทหารเคลื่อนที่เร็ว "แก๊งสามช่า" ตระเวณทั่วซอย เข้าขากันได้อย่างดี ความกระดี๊กระด๊าเพิ่มขึ้นอีกหกเท่า... ...แล้วตอนเวลาอื่น พวกแกเผือกโวยวาย แง่ง แง่ง กันลั่นซอยทำไมฟระ

/me วิ่งออกไปเล่นกับหมาดีก่า~
Vacuole
คืนอันเป็นนิรันดร์ - OST รักแห่งสยาม

เหมือนว่าเราจะมอง . .ไม่เห็นหนทางใด
ตกอยู่ในความมืดบอด ตกอยู่ในห้วงใจที่อ่อนไหว

เหมือนจะเป็นกลางคืนอันยาวนาน . .เมื่อฟ้าไม่มีแสงใด
มองไปรอบกาย . .หัวใจก็พลันต้องหวาดกลัว

ว่าเหตุใดคืนที่ยาวนานไม่ผ่านไปเสียที จากนี้จะมีหนทางอื่นอีกไหม
แต่อย่างไรก็ตามยังมีตะวันที่ฉายในวันต่อไป
แต่ไม่รู้ต้องรอเมื่อไหร่ . .หรือใจเราคงจะอยู่กับคืนอันเป็นนิรันดร์

. .ว่าเหตุใดคืนที่ยาวนานไม่ผ่านไปเสียที จากนี้จะมีหนทางอื่นอีกไหม
แต่อย่างไรก็ตามยังมีตะวันที่ฉายในวันต่อไป
เมื่อเรามีเช้าวันใหม่หวังใจว่าจะมีหน . .ทาง

เมื่อทุกข์ในวันเมื่อวาน คืนกลับมาหาใจอันอ่อนแอ
เหตุที่ใจแพ้ . . เพราะเราต่างหากที่แพ้ใจ
ความทุกข์จึงเป็นกลางคืนอันยาวนาน แล้วมันจะผ่านไป . .
ตราบใดเวลายังหมุนผ่าน . .ความทุกข์จะผ่าน เพราะไม่มีคืนใดเป็นนิรันดร์


วันคืนต้องผ่านนั่นคือเวลาอันเป็นนิรันดร์ . .
Vacuole
เมื่อวาน วันลอยกระทง บ้านเราก็ดันออกไปเลี้ยงฉลองรับปริญญาให้พี่ชายกันตอนหัวค่ำ แล้วผ่านถนนใกล้แม่น้ำอีก (- - ' ) อุ๊แม่เจ้า คนก็เยอะ รถก็ยั้วเยี้ย มีแวนซ์บอย-สก๊อยเกิร์ลรวมตัวกันอยู่ตามถนนด้วย

ร้านอาหารคนแน่นเกือบทุกแห่ง ...เสาะหาร้านกินข้าวกันอยู่นาน จนน้องเราตัดช่องน้อยเข้าสู่ save mode ไปเลย นั่นคือช้านไม่มีความเห็น ไม่ตัดสินใจ แต่ถึงแล้วปลุกไปกินด้วย ( -- [] --)

หาร้านได้แถวๆนอกเมือง ประมาณ 2 ทุ่มกว่า ในร้านก็มีหัวดำนั่งกันอยู่เต็มเลย และก็มีโต๊ะขายกระทงใบตองตั้งบริการอยู่ พวกเราได้นั่งข้างโต๊ะนั้นพอดี ตลอดเวลาก็จะเห็นเด็กน้อยชวนพ่อแม่แวะเวียนมาซื้อกระทงบ้าง ไฟเย็นบ้าง เอาไปลอยที่สระตรงกลางที่มีทั้งน้ำพุ และสปอร์ตไลท์ ...ส่วนงานตามท่าน้ำใหญ่ๆก็สัมทับด้วยดนตรี และตลาดนัดขนาดย่อมๆอีก .......แล้วจะมีใครได้มองพระจันทร์มั้ยน้อ
.
. .....................O
. ............~

.........i lll
.....l\/\/\/\/l
~~ --------- ~~~~~

อืมมมมมม...ไม่ได้ออกไปไหนคืนวันลอยกระทงมานานแล้ว
เพราะแค่สิบกว่าปีผ่านมา เทศกาลและกิจกรรมของผู้คนก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ซึ่งทำให้เราตั้งคำถามและคิดไปต่างต่างนานา ว่า

  • คนเดี๋ยวนี้เค้าไปลอยกระทง แล้วเค้าขออะไร? (...ถามได้ ก็ขอพรสิ!?! ...ขอให้เจอเนื้อคู่เถิดท่านเจ้าพระคู้ณณณณณณ -__-'A )
  • คนไปงานลอยกระทงแล้วเค้ารับรู้อะไร? (...สนุก สวยดี ไปเที่ยวกับแฟน)
  • คนมากมายมองโอกาสของเทศกาลเป็นประโยชน์ (ส่วนตน) หลายรูปแบบ
  • กระทงหลากชนิดที่ขายกันล้นเมือง ให้คนมาซื้อไปลอย (supply > demand) มันได้มาและจบลงที่อะไรบ้าง (...ขยะสด)
นั่นก็พอแล้วที่ทำให้เราเลือกที่จะไม่ฝ่าฟันฝูงชนไปเที่ยว 'งาน'ลอยกระทง แล้วรู้สึกเคารพบุญคุณของน้ำอยู่ในใจแทน :-)


ทุกคนก็รู้กันดีว่า ประเพณีลอยกระทงจัดเพื่อสักการะพระแม่คงคา

ตอนเด็กๆ เรารู้สึกเพลิดเพลินไปกับช่วงเทศกาลนี้ ที่เป็นโอกาสได้ค่อยๆลงมือทำกระทงอันเล็กเองด้วยความตั้งใจ บรรจงปักธูปเทียนลงไปตรงกลาง เพื่ออธิฐานขอคมาและขอบคุณสายน้ำ (บวกกับคอยลุ้นเล็กน้อยว่ากระทงของเราจะลอยไปรอดรึเปล่า ^^ ) เพียงแค่นี้ ถึงแม้จะได้ลอยในคลองน้ำเน่าสีดำเหม็น นั่นก็ยังมีความหมายและคุณค่าต่อคนคนหนึ่ง เพราะเป็นจังหวะที่พาให้เราได้หยุด...และระลึกถึงสัมพันธ์ของน้ำกับตัวเรา ทั้งในฐานะที่เราเป็นสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่ง, เป็นบุคคล, เป็นชุมชน และเป็นส่วนหนึ่งในโลกสีฟ้าใบนี้

เพียงเหตุผลพื้นๆทางวิทยาศาสตร์ก็บอกได้แล้วว่า "วัฏจักรของน้ำคือวัฏจักรของชีวิต" ตลอดประวัติศาสตร์มนุษย์มีน้ำเอื้อเฟื้อดูแลและเสียสละรับภาระจากมนุษย์อย่างขาดไม่ได้ สายน้ำทุกแห่งหล่อหลอมวิถีชีวิต วัฒนธรรมของชนชาติต่างๆ และสัมพันธ์ระหว่างคนกับน้ำก็กำหนดชะตาของอารยธรรมต่างๆ ให้ล่มสลาย หรือขัดเกลาให้รุ่งเรือง อยู่รอดได้จนถึงปัจจุบัน

ไม่เพียงแต่คิดเอาเท่านั้น ...ลองสัมผัสน้ำในใจดูบ้าง ว่าเรารับรู้ถึงน้ำอย่างไร ในมิติต่างๆ ...ลองรู้สึกตั้งแต่ไอ ละอองเล็กๆ ไปจนถึงแผ่นน้ำในมหาสมุทรกว้างใหญ่ มีคำไหนบ้างที่เราใช้บรรยายถึง ...ซึ่งเราเชื่อว่าความหมายของน้ำในทางใจนั้น ก็มีคุณค่าไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าประโยชน์ภายนอกเลย

...เราคิดว่าประเพณีนี้เป็นไปเพื่อถ่ายทอดจังหวะที่ลึกซึ้งเหล่านั้น ซึ่งนั่นสำคัญต่อการมองโลกและกิริยาต่อโลกของคนคนหนึ่งมากเลยนะ ว่าจะมีทัศนคติ และรับรู้ความผูกพันธ์ทางกายภาพ ชีวภาพ สังคม วัฒนธรรม รวมทั้งทางจิตใจของเขาต่อธรรมชาติ ต่อคนอื่นๆ และต่อโลกอย่างไร
.
.
.
วันนี้ นอกจากภาพความสนุก-อบอุ่นในโอกาสฉลองของครอบครัวแล้ว ภาพประทับใจของคืนนี้ไม่ได้อยู่ที่แสงระยิบระยับของแม่น้ำเจ้าพระยาจากสะพานพระรามห้าหรอก แต่อยู่ที่ความมืดในคลองเล็กๆชานเมือง แต้มด้วยแสงเหลืองนวลจากบ้านไม้สองฟากฝั่ง และแสงเทียนพริ้วไหวจากกระทงไม่กี่สิบอันที่ลอยสงบเงียบอยู่ระหว่างกลาง นั่นแล เป็นภาพที่ชวนมองมั่กมั่ก


ลอยกระทง...ขอให้คนรัก+รักษ์น้ำ ( ^ /\^)


Vacuole
to wake up


to change


...and to choose
Vacuole
อืมมมมมมมม ช่วงนี้นึกถึงเรื่องตอนเด็กๆ ได้เยอะจังแฮะ

. . . ตั้งแต่ตอนประมาณป.2 ข้าน้อยก็เริ่มอ่านการ์ตูน และพี่ๆ เพื่อนๆหลายคนก็ช่วยกันส่งเสริมจนข้าน้อยแทบไม่ต้องซื้อเองเรยยยย ก็เลยได้อ่านหลากหลายแนวมั่กๆ ตั้งแต่หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ ไปจนถึงเซเลอร์มูน รวมทั้งไอ่แบบติดเรทด้วย หุหุ ชีวิตนี้ถ้าขาดการ์ตูน ด.ญ.วรรณรวีคงจะเนิร์ดๆ ไม่เป็นแบบทุกวันนี้หรอก

เฮ้ย! มันโคตรจะสนุก + มีสาระเลยนะขอรับท่าน ใครจะไปคิดว่าเด็กป.3 จะรู้จักคำว่า cell จากดรากอนบอลฟระ แล้วเด็กป.4 รู้จักศัพท์ selenite กะ serenity จากเรื่องเซเลอร์มูน

ข้าน้อยก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาอ่านอย่างเข้มข้นจนมัธยม

. . . พอตอน ม.2 มีอยู่ช่วงนึงบุญพาวาสนามี พ่อแม่ส่งไปเรียนภาษาอังกฤษในสถาบันหรูแห่งหนึ่งย่านสยามสแควร์ ติดกับศูนย์หนังสือจุฬา เพื่อนกว่าครึ่งห้องหน้าตา ท่าทางไฮโซมั่กๆ ผิดกับด.ญ.วรรณรวี กำลังเป็นทอมบอยซ่าๆ บ้าบาสเป็นชีวิตจิตใจ

มีวันหนึ่งคุณครูหนุ่มอังกฤษอยากให้นักเรียนฟังภาษาอังกฤษจากเพลงโปรดของเค้า แน่นอนว่าวงดังสุดฮิตของอังกฤษสมัยนั้นคือ Spice Girls โอ้! เข้าทางข้าน้อยมากเพราะไอ่เพื่อนสนิทเรามันฟีเวอร์วงนี้มั่กๆ แล้วครูสุดหล่อก็เปิดเพลง 2 become 1 ให้ฟัง หวานหมูเรยยยทีนี้ร้องตามได้ เนื้อเพลงก็รู้จัก เสร๊จตู (^ ^ p)


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
พอเพลงจบ คุณครูถามว่า "What is this song about?"

สาวน้อยสองคนข้างเรา ตอบว่า "boy & girl ค่ะ"

คุณครูถามต่อว่า "What's else?"

...ข้าน้อย,ด้วยความมั่นใจในศัพท์ที่รู้สุดๆ ก็ตอบไปว่า "make love"

...(o_O')ครูทำหน้าอึ้งไปแว๊บบบนึง ก็ทำเป็นหูทวนลม ประมาณว่าตูไม่ได้ยิน แล้วก็หันไปถามเด็กๆในชั้นต่อ
ข้าน้อยก็ตอบไปอีกสองที ครูก็เปลี่ยนไปเข้าเนื้อหาตามที่เตรียมการสอนมา...ซะงั้น

ด.ญ.วรรณรวี คิดในใจ 'แล้วตูตอบผิดตรงไหนฟระ' นี่ไม่ได้ตอบแบบ descriptive เฉยๆ งูๆปลาๆ นะเฟร้ย ตอบ main idea ตามความหมายเพลงเลยด้วยความบริสุทธิ์ใจ ว่าหนูฟังเพลงรู้เรื่องนะ มิได้หมายจะป่วน กวนตรีนนนนแต่อย่างใด

...งื๊ดดดดดดด เสีย self ไปเรยยยยยด.ญ.วรรณรวี

เพื่อย้อนความจำทุกท่าน ข้าน้อยเลยเอาเนื้อเพลงบางส่วนมาแปะไว้ให้ใหม่

Candlelight and soul forever
Dream of you and me together
Say you believe it say you believe it
Free your mind of doubt and danger
be for real don't be a stranger
We can achieve it we can achieve it
Come a little bit closer baby get it on get it on
'cause tonight is the night when 2 become 1

I need some love like I've never needed love before
Wanna make love to ya baby
I had a little love now I'm back for more
Wanna make love to ya baby
Set your spirit free, it's the only way to be
Silly games that you were playing
Empty words we both were saying
Let's work it out boy, let's work it out boy
Any deal that we endeavor
boys and girls feel good together
Take it or leave it, take it or leave it
Are you as good as I remember baby? Get it on, Get it on
'cause tonight, is the night,when 2 become 1
. . .

ข้าน้อย: (6 6 )?!? ถ้าไม่อยากเจอคำตอบอย่างนี้ ทำไมไม่เลือกเพลงอื่นที่มันไม่ส่อ มาให้เด็กม.ต้น ฟังล่ะคร้าบบบบ
Vacuole
แม้ในแต่ละวันชีวิตจะมีภาวะหลากหลาย ทั้ง สบายๆบ้าง สนุกบ้าง วุ่นวายบ้าง เครียดบ้าง เหนื่อยบ้าง ...แต่มันก็ไม่ยากเลยนะ ที่เราจะสามารถสัมผัสความสุขเล็กๆน้อยๆได้เสมอ โดยที่ไม่ต้องไปหาด้วยการไปกิน, ไปเที่ยว, เล่น, ชอปปิ้ง, หรือดูทีวี ...

เมื่อเรารับรู้เรื่องราว-ผู้คน-สิ่งต่างๆรอบๆและภายในตัว ผ่านประสาทสัมผัสทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นั้น
เพียงแค่เราพึงตระหนักรู้ถึงชั่วขณะมีสุขผุดขึ้นในใจเราให้ได้
เท่านี้ก็สามารถเก็บเกี่ยวความสุขเรียบง่าย-ธรรมดา ธรรมดาในชีวิตประจำวัน มาจรรโลงจิตใจเราได้เสมอ

ที่เรามักจะหาความสุขเหล่านั้นกันไม่เจอ อาจเพราะเราลืมหรือมองข้าม ที่จะรับรู้-เปิดใจสัมผัสสภาวะดีๆ ที่เกิดขึ้นภายในตัวเองไปเสีย
ถึงแม้จะมีละอองน้ำใสเย็นมากระทบผิวในยามที่ร้อนแดด... ความสดชื่นแจ่มใสนั้น ก็ไม่อาจถูกรับรู้แล้วเข้าไปหล่อเลี้ยงจิตใจเราให้ชุ่มชื้นได้

slow down จังหวะชีวิตอันเร่งเร็ว เครียดเกร็ง แห้งแล้ง
เปิด recepter ให้มาก และกว้าง
ปรับ detector ให้ละเอียดอ่อน และเรียบง่าย
...enjoy the present moment

แด่เพื่อน ขอให้... .. .
...มีความสุข (เล็กๆ) น้อยๆ แต่บ่อยๆ
...ชุ่มฉ่ำ กับหยดน้ำที่ค้างบนยอดไม้
...สดชื่น ยามสูดลมหายใจเข้า
...แจ่มใส กับใบไม้สีเขียวสดริมระเบียงตึกสูง
...สดใส แม้พบแค่เพียงดอกไม้ดอกน้อยสีขาว ริมถนน
...เบิกบาน เมื่อยินเสียงนกเจื้อยแจ้ว
...เปิดใจเสรี เมื่อแหงนมองท้องฟ้าใส
...แย้มยิ้ม จากรอยยิ้มของแม่ค้าขายหมูปิ้ง
...อิ่มเอม เมื่อเห็นแม่กอดลูก
...หัวเราะ ตามเสียงหัวเราะของเด็กน้อยที่เล่นอยู่ใกล้ๆ
...ผ่อนคลาย เมื่อมีลมพัดเย็น
...ปล่อยวาง ยามปล่อยลมหายใจออก
...รู้สึกขอบคุณ เมื่อพบปะสิ่งดีๆ
................................. .... ... .. .


Vacuole

กลายเป็นกิจกรรมครอบครัวทุกเย็นไปซะแล้ว
ที่ต้องไปออกกำลังกายพร้อมกัน วิ่งกันเป็นฝูง
ดีใจที่ได้ชวนป๊าไปเป็นกิจวัตร ม่ามี้ก็ได้ไปฟิตเนต -->บริหารหัวเข่า
ทุกคน... สุขภาพดี + สดใส เบิกบาน(^ ^, )
.
สำหรับเรา...ร่างกายเป็นปกติขึ้นเยอะ
วิ่งแล้วจะรู้สึกตัวเยอะ ว่าเราไหวรึป่าว, หายใจสบายดีอยู่มั้ย, คนข้างๆเป็นไง, คนปั่นจักรยานสวนทางมามั้ย, บรรยากาศรอบตัวยังไงบ้าง...ได้สังเกตเยอะ

.
ทางที่ดีก็ต้องไม่เอาเพลงยัดใส่หูไปด้วยเน้อ (ไม่งั้นเราไม่ 'ได้ยิน' อย่างอื่นเลย ...ไม่ได้ซึมซับเรื่องราวรอบตัว) เราจะได้ดูจังหวะร่ายกาย-ความคิด-อารมณ์ตัวเอง สนุกดี
.
ไอ้เราก็กลับบ้านมาเป็น เวล่ำเวลามากขึ้น ฮ่า ฮ่า
เป็นเวลาร่วมกันของครอบครัว ที่ได้ยิ้มไปด้วยกัน

Vacuole

Peace in oneself
Peace in the the world

Thich Nhat Hanh

Vacuole
Cuando das sin esperar
When you give without expecting
Cuando quieres de verdad
When you truly love
Cuando brindas perdon
When you offer forgiveness
En lugar de rencor
In place of bitterness
Hay paz en tu corazón
There is peace in your heart
Cuando sientes compasion
When you feel compassion
Del amigo y su dolor
For a friend and his pain
Cuando miras la estrella
When you look at the star
Que oculta la niebla
That is hidden in the mist
Hay paz en tu corazón
There is peace in your heart
-----------
Coro

Mas alla del rencor
Beyond the bitterness
De las lagrimas y el dolor
Of the tears and the pain
Brilla la luz del amor
The light of love shines
Dentro de cada corazón
Inside of each heart
Ilusión, navidad
Illusion, christmas
Pon tus suenos a volar
Let your dreams soar
Siembra paz
Sow peace
Brida amor
Offer love
Que el mundo entero pide mas
Because the whole world is asking for more
-----------
Cuando brota una oracion
When a prayer blossoms
Cuando aceptas el error
When you accept mistakes
Cuando encuentras lugar
When you find the place
Para la libertad
For freedom
Hay una sonrisa mas
There is one more smile
Cuando llega la razon
When reason arrives
Y se va la incomprension
And misuderstanding is gone
Cuando quieres luchar
When you want to work hard
Por un ideal
For an ideal
Hay una sonrisa mas
There is one more smile
Hay un rayo de sol
There is a ray of sun
A traves del cristal
Through the crystal
Hay un mundo mejor
There is a better world
Cuando aprendes a amar
When you learn to love
----------
Coro

Mas alla del rencor
Beyond the bitterness
De las lagrimas y el dolor
Of the tears and the pain
Brilla la luz del amor
The light of love shines
Dentro de cada corazón
Inside of each heart
Ilusión, navidad
Expectation, christmas
Pon tus suenos a volar
Let your dreams soar
Siembra paz
Sow peace
Brida amor
Offer love
Que el mundo entero pide mas
Because the whole world is asking for more
-----------
Cuando alejas el temor
When you remove the fear
Y prodigas tu amistad
And lavishley give your friendship
Cuando a un mismo cantar
When with the same song
Has unido tu voz
You unite your voice
Hay paz en tu corazón
There is peace in your heart
Cuando buscas con ardor
When you search with zeal
Y descubres tu verdad
And discover your truth
Cuando quieres forjas
When you want to shape
Un manana mejor
A better tomorrow
Hay paz en tu corazón
There is peace in your heart
--------
Coro

Mas alla del rencor
Beyond the bitterness
De las lagrimas y el dolor
Of the tears and the pain
Brilla la luz del amor
The light of love shines
Dentro de cada corazón
Inside of each heart
Ilusión, navidad
Expectation , christmas
Pon tus suenos a volar
Let your dreams soar
Siembra paz
Sow peace
Brida amor
Offer love
Que el mundo entero pide mas
Because the whole world is asking for more
Vacuole

อยู่ป.โทแล้วก็ยังสอบไล่กันอยู่ คราวนี้เป็นวิชา Biostatistics (ชีวสถิติ) ขึ้นสังเวียนชกกัน วันพุธนี้แล้ว (28 กุมภา) เอ๊ะ ได้ข่าวว่าไอ้ที่นั่งอัพบล๊อกอยู่นี่ มันคืนวันจันทร์แล้วนะ

วิชานี้สอนให้รู้จักร้อยเล่มเกวียนในงานวิจัยเพียบเลย เพื่อเรา เหล่านักศึกษาจะได้วิเคราะห์ result กันได้ลื่นเป็นปลาไหลตอนทำวิทยานิพนธ์ และงานวิจัยอื่นๆ ให้ผลยอมรับได้ (ตามแบบวิทยาศาสตร์ทื่อๆยุคดึกดำบรรพ์ที่อยากได้ตัวเลขเป็นเครื่องยืนยัน) ............เอื๊อก

(-_-')a
.
.
บ่ายวันศุกร์ - วันสุข :-)

นั่งชิวกับลมเย็นๆ กำลังเพลิดเพลินกับหนังสือในมือ นั่งยิ้มอย่างสบายใจ
เพื่อนที่กำลังนั่งติว biostat. (ตามที่นักศึกษาควรทำ) อยู่ที่โต๊ะถัดไป ก็หันมาทักเรา

  • เพื่อน: อ่านหนังสืออะไรอยู่?
  • วรรณรวี: (ยกหนังสือให้ดูแทน... "ศานติในเรือนใจ" ของ ท่าน ติช นัท ฮันห์)
  • เพื่อน: (อ่านชื่อในใจอยู่พักนังก็พูดออกมา) อ๋อ... "สถิติในเรือนใจ!!" ฮ่าฮ่า.........
  • วรรณรวี: แว้กกกกกกกกกกกก! (+_+ ) คิดได้ไง (ฟะ)

ความสุนทรีกระเจิงไปทันที ....ศานติในเรือนใจช้านนนนนนนนนนนน

สอบคราวนี้เป็น ช่วงจิตตก จริงๆ ..........ตกไปอยู่ที่อื่นหมดเลย ยกเว้นหนังสือที่ต้องอ่านสอบ ซะงั้น :-p

อย่างไรก็ตามวิชาความรู้ ทำให้เราเรียนรู้สิ่งต่างๆเสมอ ทั้งในเนื้อหาที่อ.สอน และอื่นๆอีกมากมายข้างทาง ตอนเราเดินเข้าไปรู้จักความรู้นั้น
การโอ้เอ้ คงจบเพียงเท่านี้แล้วเด้อค่ะ ... เห็นทีจะต้องไปทบทวนกลยุทธสถิติร้อยเล่มเกวียนต่อ

หุหุ สถิติในเรือนใจ

Vacuole
"กงยี่ วัดไส วัดเด็ง" !!!
สวัสดีปีใหม่จีนกันแบบไหหลำ ละกันนะคร้าบ
ขอให้สุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพใจแจ่มใสทุกท่าน


เมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา เป็นวันจ่าย แต่ ณ บ้านสะพานควาย
ครอบครัวข้าพเจ้า ไม่ได้ไหว้ตรุษจีนกัน
ไหนๆวันนั้นจะได้ใช้เวลาอยู่รับใช้ท่านแม่ซะที ก็พากันไป จับจ่ายทางสายตา กันเพลินๆใกล้บ้านดีกว่า

ณ ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้บ้านที่ลูกค้าเนืองแน่น (ดีนะเนี่ยที่ไม่ได้มาซื้ออะไร)
ตามที่เราเห็นกันชินตาในห้างและซุปเปอร์ฯชั้นนำ มักจะมีเคาท์เตอร์ของขนมของร้านเบเกอร์รี่ระดับ(ทั่วประเทศ)ชาติ!ยี่ห้อหนึ่ง ประกอบควบคู่ด้วยเสมอ

สายตาข้าน้อยก็เหลือบไปเห็นก้อนขนมเค้กรูปหัวใจประดับด้วยเชอร์รี่ฉ่ำๆ นับสิบในแยมสีแดงบนหน้าเค้ก...ป้ายข้างล่างบ่งบอกให้รู้ว่าเป็นเค้กวาเลนไทน์สำหรับคู่รัก..............

.....ด้วยจิตใจอันเพลิดเพลิน อยากรู้อยากเห็น ข้าน้อยกับท่านแม่ก็เอ่ยถามพนักงานสาวหน้าแฉล้ม "เค้กนี่เก็บได้กี่วันคะ?"
"เค้กมีอายุประมาณ 3 วันค่ะ", แม่นางคนนั้นตอบกลับมา
ท่านแม่: "นับจากวันนี้เหรอหนู?"
เธอตอบว่า "ใช่ค่ะเค้กเพิ่งทำวันนี้ค่ะ ใหม่สดทุกวันนะคะ"
ข้าน้อย: (ในใจคิดว่ามันแหม่งๆนะ วันนี้มันศุกร์ที่ 16แล้วนะเฟร้ย!

วาเลนไทน์มัน 14 กุมภา แม่นบ่??)

....คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวรวดเร็วดั่งโคโลนีราที่มันคอนฯในเพลทเลี้ยงเชื้อ...

  • เค้กที่มันขายไม่ออกเนี่ย ชะตากรรมมันจะพบจุดจบแบบไหนอ่ะ?...ตัวอะไรมันจะลาภปากได้กิน?
  • แล้วมันมีไอ้พวกอย่างงี้กี่ก้อน?
  • ไอ้ร้านขนมแห่งชาติเนี่ย เค้ามีกี่สาขากัน? (เปิดนับในเน็ตแล้วก็น่าจะประมาณ 150 ร้านทั่วประเทศ)

กว่าจะได้มาก้อนนึงไปวางขาย ต้องใช้แป้ง, นม, เนย, น้ำตาล, ไข่, ผลไม้, ไฟฟ้า, น้ำมัน, พลังงาน, รถขนส่ง, โรงงานผลิต, แรงงานคน, ฯลฯ ต้นทุนการผลิตวัตถุดิบแต่ละอย่าง ไหนจะต้นทุนสิ่งแวดล้อมอีกเท่าไหร่กันนะ

สมมติว่า มีเค้ก2 ปอนด์เหลือทิ้งร้านละ 3 ก้อนสัปดาห์ x 150สาขา x 50 สัปดาห์
คิดย้อนกลับไปถึงโคตรเหง้าที่มาของส่วนประกอบอื่นๆอีก ทวีคูณ ...

...นี่เพื่อที่จะมีขนม 1 ก้อนมาให้เราได้ซื้อไปกินเนี่ย มันต้องทำเค้กเผื่ออีก 2-3ก้อน ต้องปลูกข้าว อ้อย เชอรี่ เพื่อไอ้2-3ก้อนนั่นอีกเท่าไหร่ ทำไมคนเรามันต้องสร้าง human footprint เยอะขนาดนี้เนี่ย .......(บ่น บ่น บ่น)

...แค่เค้ก อีชั้นก็คิดเลยเถิดไปขนาดนี้แล้ว... อย่างอื่นอีกมาก รอบตัวเราไม่ต้องสาธยายก็นึกภาพได้ง่ายๆ
(จะซื้อ จะกิน จะใช้อะไร ก็ฝากไปจินตนาการให้ขัดลูกกระเดือกกันเล่นๆละกันนะ เหอเหอ)

ซึ้งเลยว่าถ้ากิน ถ้าอยู่ แค่อย่างพอเพียง จะทำให้รักษาต้นทุนทางเศรษฐกิจ, ธรรมชาติ, และทรัพยากรที่สังคมมนุษย์ต้องพึ่งพา ให้มียั่งยืนได้อีกมหาศาลเท่าไหร่
.
.
.
.
.


สุดท้าย...เอาวะ! นานๆที ...ข้าน้อยกะท่านแม่ก็ซื้อเอาไอ้เค้กหัวใจตกเทศกาลนั่นมา ไว้กินพร้อมหน้ากันตอนตรุษจีนนี้ก็โอเคเนอะ มันแดงดี ฮ่าฮ่า
Vacuole
สวัสดีชาวโลก

ถึงเพื่อนพ้อง พี่ ป้า น้า อาทั้งหลาย ตอนนี้กะลังครึ้มอกครึ้มใจ๋ เคลียร์งานเสร็จหายใจโล่งคอขึ้นมา ก็อยากเอาเรื่องสัพเพเหระที่เจอๆมา มาแบ่งปันกับเพื่อนทั้งที่อยู่เมืองไทย (แต่ไม่ค่อยได้เจอกั๋น) และทั้งที่โกอินเตอร์ รวมทั้งคนจรที่ผ่านมาแวะเยี่ยม จะได้มีโอกาสได้คุยกันมั่ง ถึงแม้มันจะไม่ real time (PCR) ก็ตาม ฝากถึงชาวไกลบ้านไกลเมือง ถึงไม่เจอกันแต่ก็จะได้ไม่แหง่ว ไม่เหงา เอาไว้อ่าน ไว้(คอม)เมนท์กันเล่นๆ

จะว่าไป ชีวิตมันก็คือการเดินทางนั่นแหละ เพื่อนเอย...

ไม่จำเป็นว่าจะต้องไปเที่ยวถึงจะมีอะไรมันส์ๆ ถึงแต่ละวันจะทำอะไรรูทีนซ้ำๆกัน
แต่มันก็ไม่เคยมีวันไหนที่เหมือนกันเลยนิ ไม่ว่าจะนอนเล่น, ไปเรียน, ทำงาน(เอาออกจากหางหมู), กินขนม, ขึ้นรถเมล์, อ่านหนังสือ(+หนังสือการ์ตูน), เล่นกะหมากะแมว, ไปเดินป่า, แอบหนีเที่ยว, ฯลฯ ทุกอย่างก็ให้อะไรๆกับชีวิตเยอะมักมัก ขอแค่เรา ใส่ใจที่จะรับ ว่าเราเรียนรู้อะไรระหว่างทางเดิน อย่างเป็นกลาง ไม่ตัดสิน เท่านั้นเอง


บทเรียน และความสุขเล็กๆน้อยมีอยู่รอบๆตัวเรา ทุกวัน สนุกที่จะเฝ้ามองการเดินทางแต่ละก้าว แล้วอยากเอามาแลกเปลี่ยนแบ่งกันอ่าน ก็เลยขึ้นบ้านใหม่ เปิดบล๊อกบันทึกมันซะ

แรกๆ คงขุดเอาเรื่องราวบันทึกสะสม เรื่อง ท่องเที่ยว!! ที่ save as draft เอาไว้มาอัพเล่าสู่กันฟังละเด้อค่า ที่อีชั้นกั๊กไว้เยอะ คงเพราะอยู่ในโหมดตึงๆ ประมาณว่า shift ไปทาง ลักษณ์หก + หนึ่ง ใจมันไม่อยากอัพ ติดเพอเฟ็กซะมาก ถึงตอนนี้ มันสบายๆ ชิวๆ พอเราวางใจมากขึ้น ยึดอะไรไม่เข้าเรื่องไว้มันก็เท่านั้นเอง...

วางความกังวล แล้วบันทึกการเดินทางมาไว้สอนให้เรารู้ตัว จะดีซะกว่า

ขออภัยที่ไม่สดใหม่ทันเหตุการณ์ซักเท่าไหร่ ถือซะว่าเอาเหตุการณ์ที่ผ่านมาผ่านไป มาชงกินกันเป็นของว่างระหว่างทางละกันนะคร๊าบ

ป.ล. ถึงชาวเผ่า บล๊อกนี้จะเดินทางลึกไม่ลึกขนาดไหน ข้าน้อยก็มิอาจรู้ได้ ขอดูเทรนไปซักอึดใจเด้อค่า บางเรื่องสำหรับเรา การบรรยายเป็นตัวหนังสือ(ให้มันเข้าใจ) มันก็ดูยากกว่าที่จะไดอะลอกอ่ะนะ เหอ เหอ