Vacuole

อยู่ป.โทแล้วก็ยังสอบไล่กันอยู่ คราวนี้เป็นวิชา Biostatistics (ชีวสถิติ) ขึ้นสังเวียนชกกัน วันพุธนี้แล้ว (28 กุมภา) เอ๊ะ ได้ข่าวว่าไอ้ที่นั่งอัพบล๊อกอยู่นี่ มันคืนวันจันทร์แล้วนะ

วิชานี้สอนให้รู้จักร้อยเล่มเกวียนในงานวิจัยเพียบเลย เพื่อเรา เหล่านักศึกษาจะได้วิเคราะห์ result กันได้ลื่นเป็นปลาไหลตอนทำวิทยานิพนธ์ และงานวิจัยอื่นๆ ให้ผลยอมรับได้ (ตามแบบวิทยาศาสตร์ทื่อๆยุคดึกดำบรรพ์ที่อยากได้ตัวเลขเป็นเครื่องยืนยัน) ............เอื๊อก

(-_-')a
.
.
บ่ายวันศุกร์ - วันสุข :-)

นั่งชิวกับลมเย็นๆ กำลังเพลิดเพลินกับหนังสือในมือ นั่งยิ้มอย่างสบายใจ
เพื่อนที่กำลังนั่งติว biostat. (ตามที่นักศึกษาควรทำ) อยู่ที่โต๊ะถัดไป ก็หันมาทักเรา

  • เพื่อน: อ่านหนังสืออะไรอยู่?
  • วรรณรวี: (ยกหนังสือให้ดูแทน... "ศานติในเรือนใจ" ของ ท่าน ติช นัท ฮันห์)
  • เพื่อน: (อ่านชื่อในใจอยู่พักนังก็พูดออกมา) อ๋อ... "สถิติในเรือนใจ!!" ฮ่าฮ่า.........
  • วรรณรวี: แว้กกกกกกกกกกกก! (+_+ ) คิดได้ไง (ฟะ)

ความสุนทรีกระเจิงไปทันที ....ศานติในเรือนใจช้านนนนนนนนนนนน

สอบคราวนี้เป็น ช่วงจิตตก จริงๆ ..........ตกไปอยู่ที่อื่นหมดเลย ยกเว้นหนังสือที่ต้องอ่านสอบ ซะงั้น :-p

อย่างไรก็ตามวิชาความรู้ ทำให้เราเรียนรู้สิ่งต่างๆเสมอ ทั้งในเนื้อหาที่อ.สอน และอื่นๆอีกมากมายข้างทาง ตอนเราเดินเข้าไปรู้จักความรู้นั้น
การโอ้เอ้ คงจบเพียงเท่านี้แล้วเด้อค่ะ ... เห็นทีจะต้องไปทบทวนกลยุทธสถิติร้อยเล่มเกวียนต่อ

หุหุ สถิติในเรือนใจ

Vacuole
"กงยี่ วัดไส วัดเด็ง" !!!
สวัสดีปีใหม่จีนกันแบบไหหลำ ละกันนะคร้าบ
ขอให้สุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพใจแจ่มใสทุกท่าน


เมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา เป็นวันจ่าย แต่ ณ บ้านสะพานควาย
ครอบครัวข้าพเจ้า ไม่ได้ไหว้ตรุษจีนกัน
ไหนๆวันนั้นจะได้ใช้เวลาอยู่รับใช้ท่านแม่ซะที ก็พากันไป จับจ่ายทางสายตา กันเพลินๆใกล้บ้านดีกว่า

ณ ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้บ้านที่ลูกค้าเนืองแน่น (ดีนะเนี่ยที่ไม่ได้มาซื้ออะไร)
ตามที่เราเห็นกันชินตาในห้างและซุปเปอร์ฯชั้นนำ มักจะมีเคาท์เตอร์ของขนมของร้านเบเกอร์รี่ระดับ(ทั่วประเทศ)ชาติ!ยี่ห้อหนึ่ง ประกอบควบคู่ด้วยเสมอ

สายตาข้าน้อยก็เหลือบไปเห็นก้อนขนมเค้กรูปหัวใจประดับด้วยเชอร์รี่ฉ่ำๆ นับสิบในแยมสีแดงบนหน้าเค้ก...ป้ายข้างล่างบ่งบอกให้รู้ว่าเป็นเค้กวาเลนไทน์สำหรับคู่รัก..............

.....ด้วยจิตใจอันเพลิดเพลิน อยากรู้อยากเห็น ข้าน้อยกับท่านแม่ก็เอ่ยถามพนักงานสาวหน้าแฉล้ม "เค้กนี่เก็บได้กี่วันคะ?"
"เค้กมีอายุประมาณ 3 วันค่ะ", แม่นางคนนั้นตอบกลับมา
ท่านแม่: "นับจากวันนี้เหรอหนู?"
เธอตอบว่า "ใช่ค่ะเค้กเพิ่งทำวันนี้ค่ะ ใหม่สดทุกวันนะคะ"
ข้าน้อย: (ในใจคิดว่ามันแหม่งๆนะ วันนี้มันศุกร์ที่ 16แล้วนะเฟร้ย!

วาเลนไทน์มัน 14 กุมภา แม่นบ่??)

....คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวรวดเร็วดั่งโคโลนีราที่มันคอนฯในเพลทเลี้ยงเชื้อ...

  • เค้กที่มันขายไม่ออกเนี่ย ชะตากรรมมันจะพบจุดจบแบบไหนอ่ะ?...ตัวอะไรมันจะลาภปากได้กิน?
  • แล้วมันมีไอ้พวกอย่างงี้กี่ก้อน?
  • ไอ้ร้านขนมแห่งชาติเนี่ย เค้ามีกี่สาขากัน? (เปิดนับในเน็ตแล้วก็น่าจะประมาณ 150 ร้านทั่วประเทศ)

กว่าจะได้มาก้อนนึงไปวางขาย ต้องใช้แป้ง, นม, เนย, น้ำตาล, ไข่, ผลไม้, ไฟฟ้า, น้ำมัน, พลังงาน, รถขนส่ง, โรงงานผลิต, แรงงานคน, ฯลฯ ต้นทุนการผลิตวัตถุดิบแต่ละอย่าง ไหนจะต้นทุนสิ่งแวดล้อมอีกเท่าไหร่กันนะ

สมมติว่า มีเค้ก2 ปอนด์เหลือทิ้งร้านละ 3 ก้อนสัปดาห์ x 150สาขา x 50 สัปดาห์
คิดย้อนกลับไปถึงโคตรเหง้าที่มาของส่วนประกอบอื่นๆอีก ทวีคูณ ...

...นี่เพื่อที่จะมีขนม 1 ก้อนมาให้เราได้ซื้อไปกินเนี่ย มันต้องทำเค้กเผื่ออีก 2-3ก้อน ต้องปลูกข้าว อ้อย เชอรี่ เพื่อไอ้2-3ก้อนนั่นอีกเท่าไหร่ ทำไมคนเรามันต้องสร้าง human footprint เยอะขนาดนี้เนี่ย .......(บ่น บ่น บ่น)

...แค่เค้ก อีชั้นก็คิดเลยเถิดไปขนาดนี้แล้ว... อย่างอื่นอีกมาก รอบตัวเราไม่ต้องสาธยายก็นึกภาพได้ง่ายๆ
(จะซื้อ จะกิน จะใช้อะไร ก็ฝากไปจินตนาการให้ขัดลูกกระเดือกกันเล่นๆละกันนะ เหอเหอ)

ซึ้งเลยว่าถ้ากิน ถ้าอยู่ แค่อย่างพอเพียง จะทำให้รักษาต้นทุนทางเศรษฐกิจ, ธรรมชาติ, และทรัพยากรที่สังคมมนุษย์ต้องพึ่งพา ให้มียั่งยืนได้อีกมหาศาลเท่าไหร่
.
.
.
.
.


สุดท้าย...เอาวะ! นานๆที ...ข้าน้อยกะท่านแม่ก็ซื้อเอาไอ้เค้กหัวใจตกเทศกาลนั่นมา ไว้กินพร้อมหน้ากันตอนตรุษจีนนี้ก็โอเคเนอะ มันแดงดี ฮ่าฮ่า
Vacuole
สวัสดีชาวโลก

ถึงเพื่อนพ้อง พี่ ป้า น้า อาทั้งหลาย ตอนนี้กะลังครึ้มอกครึ้มใจ๋ เคลียร์งานเสร็จหายใจโล่งคอขึ้นมา ก็อยากเอาเรื่องสัพเพเหระที่เจอๆมา มาแบ่งปันกับเพื่อนทั้งที่อยู่เมืองไทย (แต่ไม่ค่อยได้เจอกั๋น) และทั้งที่โกอินเตอร์ รวมทั้งคนจรที่ผ่านมาแวะเยี่ยม จะได้มีโอกาสได้คุยกันมั่ง ถึงแม้มันจะไม่ real time (PCR) ก็ตาม ฝากถึงชาวไกลบ้านไกลเมือง ถึงไม่เจอกันแต่ก็จะได้ไม่แหง่ว ไม่เหงา เอาไว้อ่าน ไว้(คอม)เมนท์กันเล่นๆ

จะว่าไป ชีวิตมันก็คือการเดินทางนั่นแหละ เพื่อนเอย...

ไม่จำเป็นว่าจะต้องไปเที่ยวถึงจะมีอะไรมันส์ๆ ถึงแต่ละวันจะทำอะไรรูทีนซ้ำๆกัน
แต่มันก็ไม่เคยมีวันไหนที่เหมือนกันเลยนิ ไม่ว่าจะนอนเล่น, ไปเรียน, ทำงาน(เอาออกจากหางหมู), กินขนม, ขึ้นรถเมล์, อ่านหนังสือ(+หนังสือการ์ตูน), เล่นกะหมากะแมว, ไปเดินป่า, แอบหนีเที่ยว, ฯลฯ ทุกอย่างก็ให้อะไรๆกับชีวิตเยอะมักมัก ขอแค่เรา ใส่ใจที่จะรับ ว่าเราเรียนรู้อะไรระหว่างทางเดิน อย่างเป็นกลาง ไม่ตัดสิน เท่านั้นเอง


บทเรียน และความสุขเล็กๆน้อยมีอยู่รอบๆตัวเรา ทุกวัน สนุกที่จะเฝ้ามองการเดินทางแต่ละก้าว แล้วอยากเอามาแลกเปลี่ยนแบ่งกันอ่าน ก็เลยขึ้นบ้านใหม่ เปิดบล๊อกบันทึกมันซะ

แรกๆ คงขุดเอาเรื่องราวบันทึกสะสม เรื่อง ท่องเที่ยว!! ที่ save as draft เอาไว้มาอัพเล่าสู่กันฟังละเด้อค่า ที่อีชั้นกั๊กไว้เยอะ คงเพราะอยู่ในโหมดตึงๆ ประมาณว่า shift ไปทาง ลักษณ์หก + หนึ่ง ใจมันไม่อยากอัพ ติดเพอเฟ็กซะมาก ถึงตอนนี้ มันสบายๆ ชิวๆ พอเราวางใจมากขึ้น ยึดอะไรไม่เข้าเรื่องไว้มันก็เท่านั้นเอง...

วางความกังวล แล้วบันทึกการเดินทางมาไว้สอนให้เรารู้ตัว จะดีซะกว่า

ขออภัยที่ไม่สดใหม่ทันเหตุการณ์ซักเท่าไหร่ ถือซะว่าเอาเหตุการณ์ที่ผ่านมาผ่านไป มาชงกินกันเป็นของว่างระหว่างทางละกันนะคร๊าบ

ป.ล. ถึงชาวเผ่า บล๊อกนี้จะเดินทางลึกไม่ลึกขนาดไหน ข้าน้อยก็มิอาจรู้ได้ ขอดูเทรนไปซักอึดใจเด้อค่า บางเรื่องสำหรับเรา การบรรยายเป็นตัวหนังสือ(ให้มันเข้าใจ) มันก็ดูยากกว่าที่จะไดอะลอกอ่ะนะ เหอ เหอ