Vacuole
เมื่อวาน วันลอยกระทง บ้านเราก็ดันออกไปเลี้ยงฉลองรับปริญญาให้พี่ชายกันตอนหัวค่ำ แล้วผ่านถนนใกล้แม่น้ำอีก (- - ' ) อุ๊แม่เจ้า คนก็เยอะ รถก็ยั้วเยี้ย มีแวนซ์บอย-สก๊อยเกิร์ลรวมตัวกันอยู่ตามถนนด้วย

ร้านอาหารคนแน่นเกือบทุกแห่ง ...เสาะหาร้านกินข้าวกันอยู่นาน จนน้องเราตัดช่องน้อยเข้าสู่ save mode ไปเลย นั่นคือช้านไม่มีความเห็น ไม่ตัดสินใจ แต่ถึงแล้วปลุกไปกินด้วย ( -- [] --)

หาร้านได้แถวๆนอกเมือง ประมาณ 2 ทุ่มกว่า ในร้านก็มีหัวดำนั่งกันอยู่เต็มเลย และก็มีโต๊ะขายกระทงใบตองตั้งบริการอยู่ พวกเราได้นั่งข้างโต๊ะนั้นพอดี ตลอดเวลาก็จะเห็นเด็กน้อยชวนพ่อแม่แวะเวียนมาซื้อกระทงบ้าง ไฟเย็นบ้าง เอาไปลอยที่สระตรงกลางที่มีทั้งน้ำพุ และสปอร์ตไลท์ ...ส่วนงานตามท่าน้ำใหญ่ๆก็สัมทับด้วยดนตรี และตลาดนัดขนาดย่อมๆอีก .......แล้วจะมีใครได้มองพระจันทร์มั้ยน้อ
.
. .....................O
. ............~

.........i lll
.....l\/\/\/\/l
~~ --------- ~~~~~

อืมมมมมม...ไม่ได้ออกไปไหนคืนวันลอยกระทงมานานแล้ว
เพราะแค่สิบกว่าปีผ่านมา เทศกาลและกิจกรรมของผู้คนก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ซึ่งทำให้เราตั้งคำถามและคิดไปต่างต่างนานา ว่า

  • คนเดี๋ยวนี้เค้าไปลอยกระทง แล้วเค้าขออะไร? (...ถามได้ ก็ขอพรสิ!?! ...ขอให้เจอเนื้อคู่เถิดท่านเจ้าพระคู้ณณณณณณ -__-'A )
  • คนไปงานลอยกระทงแล้วเค้ารับรู้อะไร? (...สนุก สวยดี ไปเที่ยวกับแฟน)
  • คนมากมายมองโอกาสของเทศกาลเป็นประโยชน์ (ส่วนตน) หลายรูปแบบ
  • กระทงหลากชนิดที่ขายกันล้นเมือง ให้คนมาซื้อไปลอย (supply > demand) มันได้มาและจบลงที่อะไรบ้าง (...ขยะสด)
นั่นก็พอแล้วที่ทำให้เราเลือกที่จะไม่ฝ่าฟันฝูงชนไปเที่ยว 'งาน'ลอยกระทง แล้วรู้สึกเคารพบุญคุณของน้ำอยู่ในใจแทน :-)


ทุกคนก็รู้กันดีว่า ประเพณีลอยกระทงจัดเพื่อสักการะพระแม่คงคา

ตอนเด็กๆ เรารู้สึกเพลิดเพลินไปกับช่วงเทศกาลนี้ ที่เป็นโอกาสได้ค่อยๆลงมือทำกระทงอันเล็กเองด้วยความตั้งใจ บรรจงปักธูปเทียนลงไปตรงกลาง เพื่ออธิฐานขอคมาและขอบคุณสายน้ำ (บวกกับคอยลุ้นเล็กน้อยว่ากระทงของเราจะลอยไปรอดรึเปล่า ^^ ) เพียงแค่นี้ ถึงแม้จะได้ลอยในคลองน้ำเน่าสีดำเหม็น นั่นก็ยังมีความหมายและคุณค่าต่อคนคนหนึ่ง เพราะเป็นจังหวะที่พาให้เราได้หยุด...และระลึกถึงสัมพันธ์ของน้ำกับตัวเรา ทั้งในฐานะที่เราเป็นสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่ง, เป็นบุคคล, เป็นชุมชน และเป็นส่วนหนึ่งในโลกสีฟ้าใบนี้

เพียงเหตุผลพื้นๆทางวิทยาศาสตร์ก็บอกได้แล้วว่า "วัฏจักรของน้ำคือวัฏจักรของชีวิต" ตลอดประวัติศาสตร์มนุษย์มีน้ำเอื้อเฟื้อดูแลและเสียสละรับภาระจากมนุษย์อย่างขาดไม่ได้ สายน้ำทุกแห่งหล่อหลอมวิถีชีวิต วัฒนธรรมของชนชาติต่างๆ และสัมพันธ์ระหว่างคนกับน้ำก็กำหนดชะตาของอารยธรรมต่างๆ ให้ล่มสลาย หรือขัดเกลาให้รุ่งเรือง อยู่รอดได้จนถึงปัจจุบัน

ไม่เพียงแต่คิดเอาเท่านั้น ...ลองสัมผัสน้ำในใจดูบ้าง ว่าเรารับรู้ถึงน้ำอย่างไร ในมิติต่างๆ ...ลองรู้สึกตั้งแต่ไอ ละอองเล็กๆ ไปจนถึงแผ่นน้ำในมหาสมุทรกว้างใหญ่ มีคำไหนบ้างที่เราใช้บรรยายถึง ...ซึ่งเราเชื่อว่าความหมายของน้ำในทางใจนั้น ก็มีคุณค่าไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าประโยชน์ภายนอกเลย

...เราคิดว่าประเพณีนี้เป็นไปเพื่อถ่ายทอดจังหวะที่ลึกซึ้งเหล่านั้น ซึ่งนั่นสำคัญต่อการมองโลกและกิริยาต่อโลกของคนคนหนึ่งมากเลยนะ ว่าจะมีทัศนคติ และรับรู้ความผูกพันธ์ทางกายภาพ ชีวภาพ สังคม วัฒนธรรม รวมทั้งทางจิตใจของเขาต่อธรรมชาติ ต่อคนอื่นๆ และต่อโลกอย่างไร
.
.
.
วันนี้ นอกจากภาพความสนุก-อบอุ่นในโอกาสฉลองของครอบครัวแล้ว ภาพประทับใจของคืนนี้ไม่ได้อยู่ที่แสงระยิบระยับของแม่น้ำเจ้าพระยาจากสะพานพระรามห้าหรอก แต่อยู่ที่ความมืดในคลองเล็กๆชานเมือง แต้มด้วยแสงเหลืองนวลจากบ้านไม้สองฟากฝั่ง และแสงเทียนพริ้วไหวจากกระทงไม่กี่สิบอันที่ลอยสงบเงียบอยู่ระหว่างกลาง นั่นแล เป็นภาพที่ชวนมองมั่กมั่ก


ลอยกระทง...ขอให้คนรัก+รักษ์น้ำ ( ^ /\^)


Vacuole
to wake up


to change


...and to choose